กระทรวงดิจิทัลฯ – ดีป้า จัดงานแถลงข่าวภูมิภาคโครงการรถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัย ลดความสูญเสีย คลายความกังวลผู้ปกครอง ด้วยรถรับส่งนักเรียนอัจฉริยะ

วันที่ 11 กรกฎาคม 2566 จังหวัดนครราชสีมา กระทรวงดิจิทัลฯ โดย ดีป้า จัดงานแถลงข่าวภูมิภาคโครงการรถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัย (Smart School Bus) ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้กับรถรับส่งนักเรียน เพื่อลดความสูญเสียจากเหตุการณ์เด็กถูกลืมและทิ้งให้อยู่ในรถตามลำพัง อีกทั้งคลายความกังวล และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครอง นำร่อง 7 พื้นที่เมืองอัจฉริยะ และพื้นที่ใกล้เคียงที่มีความพร้อม
.
นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อ่านวยการ สํานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เป็นประธานในพิธีโครงการรถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัย (Smart School Bus) 1 ใน 8 โครงการสําคัญของ สำนักงานส่งเสริม
เศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ที่ดาเนินการภายใต้แนวคิด Digital Infinity – ดิจิทัลไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กองทุนดีอี)
.
นายฉัตรชัย เปิดเผยว่า “การส่งเสริมให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมเพื่อการยกระดับคุณภาพชีวิตและสังคม นับเป็นหนึ่งการกิจสําคัญของกระทรวงดิจิทัลฯ และ ดีป้า โดยกระทรวงดิจิทัลฯ ได้มอบหมายให้ ดีป้า ดาเนินการส่งเสริมให้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อยกระดับการเดินทาง เสริมสร้างคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยให้แก่นักเรียน ซึ่งนับว่าเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ในด้าน Smart Mobility”
.
“โครงการรถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัย (Smart School Bus) มีจุดเด่นอยู่ที่การติดตั้งระบบ GPS
เพื่อติดตามรถและเด็กนักเรียน พร้อมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่จะประมวลผล และรายงานผลการขับขี่ ข้อมูลรถ ความเร็ว รวมถึงสถานะของเด็กนักเรียน ก่อนส่งไปยังแอปพลิเคชันสำหรับผู้ปกครอง และเว็บเบรา
เซอร์สำหรับโรงเรียน ซึ่งสามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยง่าย อีกทั้งเป็นการช่วยแก้ไขปัญหา และป้องกันเหตุการณ์ไม่
คาดคิด รวมถึงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที
.
อุปกรณ์ติดตามตำแหน่ง จะช่วยให้โรงเรียนเป็นศูนย์กลางสามารถจัดการข้อมูลการใช้งานทั้งหมด ซึ่งผู้ปกครองสามารถอุ่นใจได้ว่า นักเรียนจะได้รับความปลอดภัยตลอดการเดินทาง คนขับรถรับส่งนักเรียนสามารถตรวจสอบนักเรียนขึ้นรถ และรายงานสถานะผ่านแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งผู้ปกครองจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อรถใกล้มารับนักเรียนที่บ้าน นักเรียนลงรถที่โรงเรียน และนักเรียนถึงบ้าน ระบบป้องกันการลืมเด็กในรถโรงเรียน ตรวจจับความเคลื่อนไหวภายในรถ อุปกรณ์ติดตามนักเรียนแจ้งผ่านอุปกรณ์ติดรถ การกดแจ้งเหตุฉุกเฉิน
และโรงเรียนสามารถโทรเข้าไปที่รถ ซึ่งระบบจะรับสายอัตโนมัติ
โครงการรถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัย (Smart School Bus) มีเป้าหมายนำร่องโรงเรียนระดับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาของรัฐ รวมกว่า 300 โรงเรียนได้รับการติดตั้งระบบ Smart School Bus ไม่น้อย
กว่า 3,000 คัน ซึ่งประเมินว่าจะมีนักเรียนได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าวไม่น้อยกว่า 30,000 คน
ขณะเดียวกันโรงเรียนระดับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาภาคเอกชน จํานวนไม่น้อยกว่า 50 โรงเรียน จะได้รับ
การติดตั้งระบบ Smart School Bus กว่า 500 คัน ซึ่งคาดว่าจะมีนักเรียนได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 5,000 คน บุคลากรที่เกี่ยวข้อง อาทิ ครูผู้ดูแลโครงการ บุคลากรฝ่ายเทคโนโลยีสารสารสนเทศควบคุมระบบ ผู้ให้บริการรถรับส่งนักเรียน ผู้ปกครอง ฯลฯ ได้รับประโยชน์มากกว่า 14,000 คน
ที่สําคัญ โครงการฯ นี้จะทําให้เกิด Smart School Bus Big DATA ที่เกิดจากระบบ sensor ต่างๆ ซึ่งติดตั้งอยู่ทั้งกับตัวนักเรียน และ ที่รถโรงเรียน ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นจะถูกนำไปใช้ประมวลผลที่ Smart School Bus Intelligent Operation Center ในแต่ละพื้นที่ ทำให้เกิดการบูรณาการข้อมูลอย่างเป็นระบบ และยังสามารถนำข้อมูลได้ ไปปรับใช้กับบริบทของโรงเรียน ผู้ปกครอง และความมั่นคงปลอดภัยในพื้นที่เมืองอัจฉริยะได้ดีมากยิ่งขึ้น
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการรถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัย (Smart School Bus) ที่มีการนําเทคโนโลยี
ดิจิทัลมาประยุกต์ใช้กับรถโรงเรียนจะช่วยลดความสูญเสียจากเหตุการณ์เด็กถูกลืมและทิ้งให้อยู่ในรถโรงเรียนตาม
ลำพัง คลายความกังวล และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครอง ครูและบุคลากรของโรงเรียนในจังหวัดภูเก็ตให้
สามารถดูแลเด็กนักเรียนได้อย่างทั่วถึง ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลฯ โดย ดีป้า จะเร่งขยายผลไปยังโรงเรียนในพื้นที่
จังหวัดอื่น ๆ และตั้งเป้าครอบคลุมทุกโรงเรียนทั่วประเทศในระยะต่อไป” รองผู้อ่านวยการ สํานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กล่าว
ด้าน นายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “ตามที่ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อ
เศรษฐกิจและสังคมได้จัดทำโครงการ “รถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัย” โดยการนําเทคโนโลยี Sensor และ
ระบบ IoT เข้ามาติดตั้ง ภายในรถโรงเรียน เพื่อที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็กนักเรียน ที่ใช้บริการรถรับ-
ส่ง นักเรียน ในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งโครงการนี้ จะทำให้ลูกหลานของชาวโคราช ไม่ต้องประสบกับปัญหาเด็กติด
ในรถ จนเสียชีวิต ซึ่งทางจังหวัดนครราชสีมา ต้องขอขอบคุณทางกระทรวงดิจิทัล และ depa ที่เลือกให้จังหวัด
นครราชสีมาของเรา เป็นหนึ่งในจังหวัดนำร่อง ของการนำเอานวัตกรรมหรืออุปกรณ์เทคโนโลยี มาติดตั้ง เพื่อเพิ่ม
ความปลอดภัยให้กับการเดินทางของนักเรียน โครงการนี้จะมีส่วนช่วยให้ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานที่ใช้บริการรถ
โรงเรียนคลายกังวล และยังสามารถติดตามการเดินทางของบุตรหลานได้อีกด้วย
ซึ่งหากมีเทคโนโลยีขั้นนี้ติดตั้งในรถ ปัญหาเด็กติดอยู่ในรถจนต้องเสียชีวิตคงหมดไปอย่างแน่นอน เพราะที่
ผ่านมาแม้ว่า กรมการขนส่งทางบก และ กระทรวงศึกษาธิการ จะมีมาตรการในการป้องกันปัญหาเด็กติดค้างในรถ
โรงเรียนแล้ว แต่ก็ยังคงมีปัญหาเกิดขึ้น ทั้งนี้อาจเป็นเพราะความผิดพลาดของคนขับรถ ดังนั้นการนำเอาเทคโนโลยี Sensor เข้ามาติดตั้งในรถ ถือได้ว่าเป็นการนำเอาเทคโนโลยี มาช่วยลดความผิดพลาดของคนขับได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งผมเองก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งว่า การนำ Sensor มาติดตั้งภายในรถ นอกจากจะเป็นการช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับการเดินทางของนักเรียนแล้ว เรายังสามารถนำเอาข้อมูลของการเดินรถที่ได้จาก Sensor มาใช้ประกอบการวางแผนการเดินทาง ในรูปแบบ Smart Mobility ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับจังหวัด
นครราชสีมา ให้สามารถเป็น Smart City ใต้ในอนาคต
สุดท้ายนี้ ทางจังหวัดนครราชสีมา ขอขอบคุณกระทรวงดิจิทัลฯ โดย ดีป้า อีกครั้ง ที่ให้เกียรติจังหวัด
นครราชสีมาเป็นหนึ่งในจังหวัดนำร่อง ที่มีการนำนวัตกรรมหรือระบบเทคโนโลยี เข้ามาใช้ และด้วยการร่วมมือกัน
ของหลายภาคส่วน จะทำให้การเดินทางของนักเรียน มีความคุณภาพและความปลอดภัย และลดอันตรายของเด็ก
นักเรียน เสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น” รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา
แถลงข่าวเปิดตัวโครงการรถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัย (Smart School Bus)
https://fb.watch/lIRlHsCGKi/?mibextid=Nif5oz